ปวดหัวแบบนี้!!  ใช้เลยปวดไมเกรนแน่ๆ

ไมเกรนคืออะไร ?

สำหรับอาการปวดศีรษะไมเกรนต่างจากอาการปวดศีรษะธรรมดา ไมเกรน (migraine) เป็นอาการปวดศีรษะเรื้อรังชนิดหนึ่งที่รบกวนชีวิตประจำวัน ลักษณะอาการที่สังเกตได้ คือ ปวดศีรษะแบบตุบๆ มักจะเกิดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ โดยโรคไมเกรนส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และมักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรบกวนชีวิตประจำวันแล้วยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย 

 

พาส่องอาการปวดไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่มีความรุนแรงและมีลักษณะเฉพาะ โดยอาการไมเกรนมักประกอบไปด้วย:

  1. ปวดศีรษะข้างเดียว: มักปวดที่ศีรษะด้านเดียว แต่ในบางครั้งอาจรู้สึกปวดทั้งสองด้าน
  2. ปวดแบบตุบๆ: การปวดมักมีลักษณะคล้ายกับการเต้นของหัวใจ (throbbing pain) หรือเหมือนมีแรงกดดัน
  3. อาการคลื่นไส้: หลายคนที่มีไมเกรนมักรู้สึกคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย
  4. ไวต่อแสงและเสียง: ผู้ป่วยไมเกรนมักมีความไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่น และอาจต้องการอยู่ในที่มืดและเงียบ
  5. ระยะเวลา: อาการปวดหัวไมเกรนมักจะอยู่ระหว่าง 4 ชั่วโมงถึง 3 วัน หากไม่ได้รับการรักษา
  6. Aura (อาการเตือน): บางคนอาจมีอาการเตือนล่วงหน้าก่อนจะปวดหัว เช่น เห็นแสงกระพริบ เสียงที่ผิดปกติ หรือรู้สึกเสียวซ่า

    ไมเกรนเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การอดอาหาร หรือการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ

     

ไมเกรนกับการรักษาแบบแพทย์แผนจีน

การรักษาไมเกรนด้วยแพทย์แผนจีนมักจะมองว่าร่างกายมีความไม่สมดุลของพลังงานหรือ "ชี่" (Qi) ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว โดยแนวทางการรักษาจะมุ่งไปที่การฟื้นฟูสมดุลของพลังงานและขจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการไหลเวียนของชี่ แนวทางการรักษาที่ใช้บ่อยในแพทย์แผนจีน ได้แก่:

  1. การฝังเข็ม (Acupuncture): แพทย์แผนจีนเชื่อว่าการฝังเข็มที่จุดเฉพาะบนร่างกายจะช่วยเปิดเส้นทางการไหลของพลังงานชี่ ลดอาการปวดหัว และลดความตึงเครียด การฝังเข็มเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการรักษาไมเกรนและได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยบางส่วนว่ามีประสิทธิภาพ
  2. การใช้ยาสมุนไพรจีน: สมุนไพรจีนถูกนำมาใช้เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายและขจัดความไม่สมดุลของพลังงาน
  3. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: แพทย์แผนจีนจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับวิถีชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การนอนหลับเพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการจัดการความเครียด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรน

 

แก้ไขเมื่อ: 2024-10-05 15:33:51